ประสบการณ์ทำงาน System Engineer ในด้าน Cloud ได้อะไรบ้าง?

สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาพูดถึงตำแหน่งงานที่ชาว IT คงได้ยินกันบ่อยนั่นคือ System Engineer นั่นเอง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีหน้าที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เรียกได้ว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่า Scope งานจะเป็นอย่างไรนั่นเอง โดยในวันนี้จะมาแบ่งปันเกี่ยวประสบการณ์ System Engineer ที่ดูแลในด้านระบบ Cloud เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ในฐานะเด็กจบใหม่กันนะคะ มาเริ่มกันเลยค่ะ

  • System Engineer ทางด้าน Cloud ต้องทำอะไรบ้าง?

เริ่มแรกเลยคือก่อนที่เข้าจะไปทำงานจริงจะมีการ Training ให้แก่พนักงานใหม่ทั้งหมด จะแบ่งเป็นหมวด เช่นพื้นฐานของ Cloud, Cloud Architecture, Network. Coding และแบ่งเข้าไปยังทีมต่างๆ ซึ่งการเข้าทีมก็จะต้องมีการสัมภาษณ์ก่อน ซึ่งก็เริ่มจากการแนะนำตัว และเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับ Cloud ในเชิงวิเคราะห์ ซึ่งคำถามที่ยังจดจำได้จนถึงวันนี้ก็คือ ‘ถ้ามี Case Request ด่วนกับ Case Server Down จะเลือกทำอะไรก่อน’ แน่นอนว่าเราเลือก Case ที่ Server Down เพราะเหตุการณ์แบบนี้จะส่งผลกระทบกับลูกค้ามากกว่า แล้วถ้าเป็นทุกคนจะเลือกยังไงกันคะ? มาเข้าสู่ชีวิตจริงในการทำงานดีกว่าค่ะ

อย่างแรกที่ต้องรู้ในการเริ่มงานคือการรู้จักการดำเนินขององค์กร เช่น ประวัติความเป็นมา, Audience ลูกค้า, มี Data Center กี่แห่ง และอื่น ๆ เพื่อเป็นการทำความรู้จักและเป็นแนวทางให้การทำงาน ส่วนต่อไปเมื่อเข้ามาทำงานในตำแหน่ง System Engineer ที่ดูแลในด้านระบบ Cloud สิ่งที่ต้องรู้คือส่วนประกอบเบื้องต้นของ Cloud คือ Vcenter, Vcloud, Infrastructure เบื้องต้น, Network, Cluster, VM และอีกมากมาย ว่ามีการตั้งค่าหรือใช้งานยังไง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ถูกต้องหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ส่วน  Provisioning  เช่นการ สร้าง VM, กำหนด Spec,  การสร้างขา Network, การลง OS ต่าง ๆ, Antivirus และการติดตั้งโปรแกรมเสริม นอกจากนั้นยังมี Service อื่นที่ให้บริการบน Cloud โดยจะจัดทำตามใบที่ทางเซลล์แจ้ง Spec มา ต้องสร้างให้ถูกต้องและตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งหากลูกค้าเป็นลูกค้าบางเจ้า ที่มี Solution ที่ซับซ้อนก็ต้องมีการประชุมกับทีมอื่นก่อนเริ่มดำเนินการ ซึ่งจะมีทีมที่เกี่ยวข้องเป็นทีม Presale, Network,  Architecture และ Cloud เพื่อให้ทุกทีมเข้าใจในสิ่งที่ต้องทำตามหน้าที่ของตนเอง


เมื่อทำงานไปสักพักและเริ่มเชี่ยวชาญในส่วนของ Provisioning แล้ว ก็จะเริ่มได้ Standby เพื่อ Support ทางลูกค้าที่มีการส่ง Ticket เข้ามา  โดยส่วนมากจะเป็นการปรับ Spec, เปิด Port หรือจะเป็นในส่วนที่เป็นปัญหา เช่นทางลูกค้าแจ้ง Server Down หลังจากติดตั้งโปรแกรม เนื่องจากขา Network หาย, ใช้ Service ไม่ได้ เปิด Port ใน Firewall แล้ว แต่ไม่ได้เปิด Port ภายใน Server  รวมถึงในบริการอื่นๆ ตั้งแต่ Backup ไม่ได้, แชร์ไฟล์ไม่ได้ เป็นต้น เรียกได้ว่าไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ซึ่งบางครั้งก็มีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้จนต้องติดต่อ Vendor ผู้เป็นเจ้าของบริการกันเลยทีเดียว ทุกคนคงเห็นภาพกันมากขึ้นเกี่ยวกับหน้าที่ที่เหล่า System Engineer ต้องทำกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ? งั้นมาต่อกันที่ Skill ที่ขาดไม่ได้ และสิ่งที่ได้รับจากการทำงานนี้กันนะคะ

  • Skill ที่ขาดไม่ได้
    • ความละเอียดรอบครอบ – ข้อนี้เรียกได้เลยว่าเป็นข้อที่สำคัญสุด เพราะเนื้องานมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ, ซับซ้อนและไม่ได้มีลูกค้ารายเดียวที่ต้องดูแล แต่ต้องดูแลพร้อมกันหลายๆเจ้า ถ้าขาดสิ่งนี้ไปเรียกได้ว่าจะมีผลกระทบกับลูกค้าลูกค้าอย่างมากถึงขั้นระบบ Down ก็เป็นได้ รวมถึงการ Provisioning เช่นกัน หากผิดพลาดก็อาจจะต้อง Provision ใหม่กันเลยทีเดียว
    • ไหวพริบให้การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า – บางครั้งทางลูกค้ามีความจำเป็นต้องรีบใช้งานแต่มีการเกิดปัญหา เราจึงต้องใช้ไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นให้กับทางลูกค้า เพื่อทางลูกค้าสามารถใช้งานต่อได้ก่อน แล้วหลังจากจึงหาสาเหตุและวิธีแก้ไขในระยะยาว
    • การสื่อสาร – เนื่องจากมีเคสต่างๆ ที่ต้องใช้ความรู้และการพูดคุยเพื่อสอบถามให้ทราบปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว การสื่อสารจึงจำเป็นเช่นกัน เพราะถ้าไม่รู้ปัญหาของลูกค้า หรือเข้าใจไม่ถูกต้อง เราก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้
    • ไม่หยุดเรียนรู้ – เนื่องจากในแต่ละวันจะมีเคสปัญหาที่เข้ามาแทบจะไม่เหมือนกันเลย  คนที่จะเป็น System Engineer  จึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่มีวันหยุด
  • สิ่งที่ได้รับ
    • ความรู้เฉพาะทาง – ได้รับความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับระบบ Cloud, Network, Infrastructure, Security เบื้องต้น ที่หาไม่ได้จากมหาวิทยาลัย รวมถึงทักษะการทำงานการเป็น Operation เพื่อดูแลลูกค้า
    • สกิลต่าง ๆ ในการทำงาน –  เพิ่มสกิลใหม่ๆ ในการทำงานเช่น การสื่อสาร, การแก้ปัญหา, การประนีประนอม, การทำงานเป็นทีม และการเข้าใจผู้อื่น
    • ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง – อย่างที่ทราบกันดีกว่าสายงานทางด้าน IT ค่อนข้างได้รายได้ที่สูงแต่อาจจะต้องแลกมาด้วยการทำงานไม่เป็นเวลา หรือต้องลุกขึ้นมาทำงานตอนกลางคืนที่ลูกค้าไม่ได้ใช้งาน นอกจากเงินเดือนก็จะได้ในส่วนของ OT และค่าเข้ากะ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทอีกด้วย

ป.ล Blog นี้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น หากมีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ใน ณ ที่นี้ด้วยค่ะหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเด็กจบใหม่และผู้ที่สนใจในตำแหน่งงาน System Engineer กันนะคะ และสุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านปลอดภัยห่างไกลจาก Covid-19 ขอบคุณค่ะ 

หากสนใจใช้บริการ Cloud ในไทย หรือ Global Cloud และบริการอื่นๆ สามารถติดต่อ Cloud HM ได้ทันที! ที่นี่

— Cloud HM