AWS Thailand Local Zone: การให้บริการ AWS ใกล้ชิดกับลูกค้าชาวไทย

เมื่อเร็วๆ นี้ Amazon Web Services (AWS) ได้เปิดตัว Local Zone แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้บริการ AWS หลากหลายรูปแบบเข้าถึงลูกค้าชาวไทยมากขึ้น โดย Local Zone แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บริการคลาวด์ที่ให้ Latency น้อยมาก ๆ ระดับมิลลิวินาที ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถเร่งการเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงระบบดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว

AWS Thailand Local Zone คืออะไร?

AWS Local Zones เป็นการที่ AWS เข้ามาตั้งโครงสร้างพื้นฐาน AWS ที่ใกล้แหล่งผู้ใชังานให้มากขึ้น โดยจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเรียกใช้บริการ AWS ที่เลือกได้ในหลายตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และอยู่ใกล้กับผู้ใช้ปลายทาง ซึ่งแต่ละ Local Zone เป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กที่มีโครงสร้างพื้นฐานของตัวเอง ตั้งอยู่ในหรือใกล้เขตเมืองหลวง โดยเชื่อมต่อกับ AWS Region Local Zone เดิม ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีเวลาแฝงต่ำ (Latency) และแบนด์วิดท์สูงกับพื้นที่นั้น ๆ

ซึ่งในปัจจุบันองค์กรและผู้ประกอบการมี Workload และแอปพลิเคชันมากมายทั่วโลกรันอยู่บน AWS โดยลูกค้าในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเลือกใช้ AWS Region ที่สิงคโปร์ ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด อย่างไรก็ตามยังมีการใช้งานบางประเภทที่ต้องการ Latency ต่ำมาก ๆ ต้องการการประมวลผลที่ใกล้กับแหล่งข้อมูล หรือมีข้อจำกัดด้าน Data Residency เหล่านี้จำเป็นจะต้องใช้ AWS infrastructure ที่อยู่ใกล้กับผู้ใช้งานมากกว่า AWS Region ดังนั้น AWS Local Zones จึงเป็นทางเลือกในการใช้งาน Compute, Storage และ Services อื่น ๆ ที่มีการให้บริการจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะช่วยลด Latency ในการเข้าถึง Resource และยังได้ประโยชน์ต่าง ๆ ของ AWS Cloud ไม่ว่าจะเป็นด้าน Elasticity, Scalability และความปลอดภัยเช่นเดียวกันกับการใช้งานบน Region

โซนท้องถิ่นของประเทศไทยตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และมีบริการ AWS มากมาย อาทิ Amazon Elastic Compute Cloud (EC2), Amazon Virtual Private Cloud (VPC), Amazon Elastic Block Store (EBS) และอื่นๆ อีกมากมาย บริการเหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น การเรียกใช้แอพพลิเคชั่น การจัดเก็บข้อมูล และการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านเน็ตเวิร์ค

นอกจากนี้ โซนท้องถิ่นของไทยยังมีประโยชน์ เช่น การเพิ่มปริมาณงาน (Throughput) ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจและบุคคลทั่วไปสามารถปรับปริมาณงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่ม Performance โดยรวมได้ โดยโซนท้องถิ่นของไทยได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงและมีความน่าเชื่อถือด้วยคุณสมบัติต่างๆ อาทิ การทำสำรองข้อมูล Disaster Recovery โดยอัตโนมัติกับโซนหลักในสิงคโปร์

Use case ต่างๆที่เหมาะกับ AWS Local Zones

สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไปเราจะใช้ AWS Region เป็นหลักอยู่แล้วแต่ Use Cases ลักษณะเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากการใช้งานบน Local Zones สูงสุด

1. ธุรกิจที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มี Low Latency

Application ที่ต้องการ Latency ต่ำมาก ๆ จากผู้ใช้งาน อย่างเช่น Real-time Multiplayer Gaming หรืองานเกี่ยวกับการสร้างและตัดต่อ Media Content การ Deploy Workload เหล่านี้บน Local Zone จะทำให้เราได้ Latency จากผู้ใช้งานมายังระบบที่อยู่บน AWS Local Zones ในระดับ 10 milliseconds หรือต่ำกว่าได้ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การที่ดีมากขึ้น!

2.) การย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์แบบไฮบริด (Hybrid Cloud) เป็นเรื่องง่าย

Enterprise Migration ด้วย Hybrid Architecture: กลุ่มผู้ใช้งานระดับ Enterprise มี Workload ที่รันอยู่บน On-premises Data Center ของตัวเอง หรือ Co-Location สามารถได้รับประโยชน์จากการ Migrate มาใช้ AWS Local Zones ในการสร้าง Hybrid Environment ที่มี Latency ทีต่ำระหว่างแอปพลิเคชันที่อยู่บน Local Zones และ On-premises Data Center

3.) Data Residency สอดคล้องตามข้อกำหนดด้านที่อยู่ข้อมูลที่เข้มงวด

ระบบที่มีความต้องการด้าน Data Residency เราสามารถกำหนดให้ข้อมูลถูกเก็บอยู่ภายใน Local Zone ด้วยการใช้ Amazon Elastic Compute Cloud (EC2) กับ Amazon Elastic Block Storage (EBS) สำหรับ Workload ที่ต้องการเก็บข้อมูลไว้ภายในประเทศ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ สถาบันเงินและองค์กรภาครัฐ

นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว AWS Thailand Local Zone ยังนำเสนอคุณสมบัติและความสามารถอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้คุณสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ใช้ในไทย ซึ่งประกอบด้วยเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบและจัดการแอปพลิเคชัน รวมถึง API สำหรับการผนวกรวมกับบริการ AWS อื่น ๆ

การมาของ Thailand Region

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ AWS ประกาศลงทุนจำนวน 190 ล้านบาทและเตรียมเปิดตัวภูมิภาคในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น Region คล้ายกับสิงคโปร์ในปัจจุบัน ในชื่อ Asia Pacific (Bangkok)

สรุป

โดยรวมแล้วการเปิดตัว AWS Thailand Local Zone นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ AWS และลูกค้าในประเทศไทย เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น latency ที่ต่ำ และคุณสมบัติและความสามารถอื่นๆ ที่หลากหลาย จึงเป็นบริการที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนหากคุณต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ของคุณ ใครต้องการจะทดสอบก็สามารถลองทำตามบทความจาก AWS ได้เลย

อ้างอิง

https://aws.amazon.com/th/blogs/thailand/aws-local-zones-bangkok-พร้อมให้บริการแล้ว/

— Cloud HM