Distributed Cloud คืออะไร? เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการ IT อย่างไร

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว IT กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Cloud HM Blog ข่าวสารวงการ Enterprise IT ที่ทุกท่านสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำทุกท่านในเรื่องของ Distributed Cloud ครับ เนื่องจากเริ่มเข้ามามีบทบาทในยุคที่ Cloud มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายแล้ว เรามาดูรายละเอียดกันครับ เริ่มจากความหมายของ Distributed Cloud ก่อนครับ

Distributed Cloud คืออะไร?


Distributed Cloud คือ บริการ Compute ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งาน Infrastructure ของ Public Cloud ได้จากหลาย ๆ Location
หลาย ๆ Location ยังไงอะ? ปกติแล้วเวลาที่เราใช้งาน Public Cloud ตัว Infrastructure ก็จะอยู่ที่ Cloud Provider แต่ละเจ้าถูกมั้ยครับ? แต่ถ้าเป็น Distributed Cloud เราสามารถใช้งานได้จากหลาย ๆ Infrastructure เลย ไม่ว่าจะเป็น On Premise ของเราเองก็ได้, Data Center ของ Cloud Provider เจ้าอื่น ๆ ก็ได้ หรือแม้กระทั่ง Data Center อื่น ๆ หรือ Colocation ก็ได้ ทำให้คุณสามารถบริหารจัดการ Infrastructure ได้จากช่องทางเดียวนั่นเองครับ
ด้วยจุดประสงค์นี้ การใช้งานที่สามารถบริหารได้จากศูนย์กลางทำให้คุณสามารถที่จะ Deploy หรือ Run Application ได้จาก Cloud หลาย ๆ Location และ Environment ให้เหมาะสมกับ Performance ของ Application, ตรงตามความต้องการในด้าน Compliance และอื่น ๆ อีกมากมาย
Distributed Cloud จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการทำงานและบริหารจัดการที่ไม่ต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหากับ Environment ที่เป็นแบบ Hybrid Cloud หรือ Multicloud ครับ (สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Hybrid และ MultiCloud อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ)
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ Distributed Cloud ก็คือ เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับ Edge Computing ที่ใช้ Run Server และ Application ให้ใกล้กับแหล่งที่ Data ถูกสร้างออกมาความต้องการในการใช้งาน Distributed Cloud และ Edge Computing มีมากขึ้นเนื่องจากในปัจจุบัน มีการใช้งานจาก Internet of Things (IoT), AI ผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสาร (Telco) และ Application อื่น ๆ ที่จำเป็นต้องใช้  Data ในการขับเคลื่อนแบบ Real-time แต่ Distributed Cloud ไม่ได้ช่วยแค่ทำให้บริษัทสามารถ Comply ในเรื่องของ Data Privacy เกี่ยวกับ Compliance เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถให้บริการในด้าน IT ต่าง ๆ ให้กับพนักงานและลูกค้าเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ได้อีกด้วย

Distributed Cloud มีหลักการทำงานอย่างไร?

บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Distributed Computing ที่เป็นส่วนประกอบนึงของ Application ที่ใช้กระจายไปตาม Network ต่าง ๆ ของระบบ เพื่อใช้ในการสื่อสารกันเองด้วยข้อความผ่านทาง API จุดประสงค์ของการทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะเป็นพัฒนาความสามารถโดยรวมของ Application หรือเป็นการใช้งาน Compute ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
แต่ Distributed cloud ขยับไปไกลกว่านั้น อย่างไร? ก็โดยการยกเอา Compute Stack ไปตั้งไว้ในที่ ๆ ลูกค้าต้องการเลย ไม่ว่าจะเป็น On Premise ที่เป็น Site ของลูกค้าเลย หรือว่าจะเป็น Data Center อื่น ๆ ก็ได้ที่ลูกค้าสามารถหาใช้บริการได้ทำให้ Distributed cloud สามารถขยายการบริหารส่วนกลางของ Cloud Provider ที่ตอนแรกอิงจากภูมิศาสตร์ของโลก ให้เข้าใจแหล่งข้อมูลของลูกค้าจริง ๆ โดยที่ยังสามารถคงในเรื่องของการ Operation, การ Update, เรื่องของ Compliance, Security และอันสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ เรื่องของ Infrastructure ที่มีความพร้อมในการใช้งานอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วยเนื่องจากผู้ให้บริการสามารถนำ Infra ไปตั้งไว้ใกล้กับ Location ของลูกค้า หรือระแวกใกล้เคียงได้ เรียกได้ว่าเป็นตัวทลายกำแพงในการใช้งาน Cloud แบบ Hybrid และ Multi ไปเลยแหละครับ

Distributed Cloud เกี่ยวข้องอะไรกับ Edge Computing?

ยังไม่รู้จัก Edge Computing อ่านเพิ่มเติมได้เลย
กลับมาต่อกันเรื่องของ Edge computing ที่มีการเกริ่นไปเบื้องต้นแล้วว่ามีความสัมพันธ์กัน Key หลักของ Edge Computing คือ เรื่องของ Location และการ Run Application ที่อยู่ใกล้กับสถานที่ที่ข้อมูลสร้างขึ้นมา เช่น ลูกค้ามีการใช้งานอุปกรณ์จำพวกโทรศัพท์มือถือ, เครื่องแสกนบาร์โค้ด, มีกล้องวงจรปิด หรือ Sensor เครื่องจักรต่าง ๆ ที่ใช้เก็บข้อมูล หรือสร้างข้อมูลขึ้นมา
การที่เราเอา Compute ไปวางในสถานที่ที่ใกล้กับแหล่งข้อมูลแทนที่จะรอให้ข้อมูลวิ่งไปยัง Data Center เพื่อใช้สำหรับ Process ข้อมูล จะช่วยทำให้เราสามารถ Process ข้อมูลได้เลย และสามารถให้คำตอบได้ ณ เวลานั้น ทำให้เหมาะมากในการใช้งานกับ Application ที่ต้องการการ Process ข้อมูลจำนวนมหาศาล หรือแบบ Real-time โดยที่ปัญหาใหญ่คือเรื่องของ Latency ซึ่งการใช้งาน Edge Computing ตอบโจทย์อย่างมาก

จริง ๆ คุณสามารถ Implement Edge computing โดยไม่จำเป็นต้อง Distributed cloud ก็ได้ครับ แต่ถ้าใช้ Distributed cloud จะทำให้สามารถ Deploy และบริการจัดการ  Edge Application ได้ง่ายกว่ามาก ง่ายอย่างไร?ลองนึกภาพดูว่า สมมติว่าบริษัทผมมีโรงงานที่ใช้สำหรับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อยู่หลาย ๆ ที่ แต่ละที่ก็มี Edge Server ที่ใช้บริการกับ Cloud Provider หลาย ๆ เจ้าอยู่ ที่ใช้งานหลัก ๆ ก็ใช้สำหรับ Process Data ที่ออกมาจาก Sensor เป็นพัน ๆ ตัว ถ้ามีการ Deploy Edge พวกนี้จาก Distributed Cloud คุณจะสามารถบริหารจัดการทุกอย่างได้ง่าย ๆ เลย อาจจะใช้ Kubernetes Cluster ก็ได้ เรื่องของ Security ก็สามารถ Update ได้ง่าย การ Monitor  ยิ่งง่ายกว่าเดิมเพราะมีการเอามารวมกันเป็นการบริหารแบบศูนย์กลางแล้วแบบ Dashboard เดียว แต่ถ้าไม่มี Distributed Cloud เข้ามาช่วย ก็จะเพิ่มงานให้กับผู้ดูแลระบบที่จะต้องจัดการบริหารเครื่องมือต่าง ๆ จาก Cloud ของแต่ละ Edge Server นั้น Deploy อยู่ครับ

Distributed Cloud กับการใช้งานร่วมกับ Edge Computing

Distributed Cloud และ Edge Computing รองรับการทำงานในทุก ๆ ด้านที่เป็นการบริหารจัดการของ Multicloud ไม่ว่าจะเป็นการ Scale การ Deploy แบบ Automation ประโยชน์ที่ได้มีอะไรบ้าง?

  • ทำให้บริหารจัดการ Environment ที่เป็นแบบ Hybrid Cloud หรือ Multicloud  ได้ง่ายขึ้น Distributed cloud สามารถช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมการทำงานได้จาก Console เดียว
  • เพิ่มประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการ Scale และการขยาย Infrastructure ลง การที่จะสร้าง Data Center เพิ่ม ต้องจ่ายแพงและใช้เวลาค่อนข้างมากในการดำเนินการ (อันนี้รวมถึงการที่จะสร้าง Data Center ที่ภาคอื่น ๆ หรือที่ต่างประเทศด้วยนะ) ด้วยการใช้งาน Distributed Cloud องค์กรสามารถขยาย Cloud Infrastructure ได้จาก Infrastructure ที่มี โดยที่ไม่ต้องสร้าง Data Center ทำให้สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ได้จากที่ไหนก็ได้ โดยการใช้เครื่องมือเดิม และบุคลากรเดิม
  • จบปัญหาเรื่อง Compliance เรื่อง Data Privacy เป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างบางประเทศก็ไม่ยอมให้ข้อมูลของผู้ใช้งานส่งออกนอกประเทศได้ การใช้งาน Distributed Cloud จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้เนื่องจากจะทำให้สามารถ Process ข้อมูลที่ต้นทางได้เลย ซึ่งการที่ทำแบบนี้ได้จะทำให้อุตสาหกรรมด้านการแพทย์, การสื่อสาร และอุตสาหกรรมอื่น ๆ มีทางเลือกในการใช้งาน Cloud มากขึ้นครับ
  • ส่งข้อมูลให้ Customer หรือ End-user ได้เร็ว Content Delivery Network (CDN) ที่มีการ Deploy ที่ Distributed Cloud จะช่วยเพิ่มความเร็ว และคุณภาพในการ Stream Video โดยการโหลดจากต้นทางมาเก็บไว้เป็น Cache และส่งต่อ Content ไปยัง Location ที่ใกล้ End-user มากที่สุด
  • เหมาะสำหรับใช้งานกับ Application จำพวก IoT, AI และ Machine Learning ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด, ระบบ Automation ในโรงงานการผลิต, รถยนต์ไร้คนขับ, Application ด้านการแพทย์, Smart Home Smart Building และ Application อื่น ๆ ที่การทำงานขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ต้อง Process แบบ Real-time ที่ไม่สามารถรอให้ข้อมูลส่งไปที่ Cloud Data Center ก่อนแล้วค่อยส่งกลับมาได้ Distributed Cloud และ Edge Computing จะช่วยลด Latency ลงได้นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับหัวข้อในครั้งนี้ หวังว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตามจะได้รับประโยชน์นำไปปรับใช้กับการทำงานของท่านนะครับ หากสนใจบริการของ Cloud HM สามารถติดต่อได้ที่นี่นะครับ
ขอบคุณครับ

— Cloud HM