AWS ผู้ให้บริการคลาวด์บนแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในโลก รองรับการใช้งานของลูกค้ากว่าหลายล้านราย และมีลูกค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมสาขาไหนหรือเป็นองค์กรขนาดใด ทั้งสตาร์ตอัป องค์กรเอกชน องค์กรภาครัฐ และอื่น ๆ รวมถึงผู้นำในธุรกิจสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ก็ยังเลือกใช้บริการจาก AWS
หลาย ๆ คนคงเริ่มอยากรู้แล้วว่า อุตสาหกรรมสตรีมมิ่งที่มีสมาชิกที่ใช้บริการอยู่กว่า 200 ล้านราย ใน 190 ประเทศทั่วโลก ใช้ประโยชน์อะไรจากบริการของ AWS บ้าง เพื่อเปิดมุมมองใหม่ให้อีกหลายธุรกิจ เราจะพาไปดูถึง 3 กรณีศึกษาของ Netflix กับการใช้บริการจาก AWS คลาวด์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งให้มีความโดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงไปดูกันว่าประโยชน์จากการใช้งาน AWS คลาวด์แพลตฟอร์มนั้นจะมีอะไรบ้าง
3 ตัวอย่างการใช้ AWS ในการดำเนินธุรกิจของ Netflix
3 กรณีศึกษาของ Netflix ในการใช้บริการกับโซลูชันของ AWS เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
1. ใช้บริการ AWS คลาวด์ แทนการสร้าง Data Center
สำหรับธุรกิจ Video Streaming อย่าง Netflix ที่มีจำนวนสมาชิกอยู่ทั่วโลก ซึ่งในแต่ละวันจะมีผู้มาเข้าชม Video กว่า 125 ล้านชั่วโมง การจะทำให้ทุกคนสามารถรับชม Video ได้ในทันทีหลังจากคลิก Play ไม่ใช่เรื่องง่าย
Netflix จึงเลือกใช้วิธีการที่เรียกว่า Content Delivery Network (CDN) คือ การเก็บคอนเทนต์ไว้ใน Cache ที่ใกล้ที่สุด แล้วเมื่อมีสมาชิกเลือกกดรับชมคอนเทนต์นั้น ๆ ผู้ให้บริการ Internet ก็จะไปดึง Content ที่ถูกเก็บ Cache ที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้สมาชิกได้รับชม โดย Netflix เลือกที่จะใช้บริการคลาวด์ของ AWS แทนการสร้าง Data Center ของตนเอง ซึ่งจุดแข็งของ AWS คือการมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก และมีความยืดหยุ่นในการปรับลดหรือขยายขนาดของทรัพยากร จึงสามารถรองรับการใช้งานของสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว
2. สร้าง VFX Studio บน AWS คลาวด์
เนื่องจาก Netflix เป็นธุรกิจ Video Streaming ที่มีสมาชิกอยู่ทั่วโลก จึงทำให้คอนเทนต์บน Netflix ค่อนข้างมีความหลากหลายทั้งเรื่องของเนื้อหา เชื้อชาติ และวัฒนธรรม ซึ่งคอนเทนต์ทั้งหลายเหล่านี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของบรรดาครีเอเตอร์ที่อยู่ต่างพื้นที่กัน
เพื่อให้การทำงานร่วมกันของเหล่าครีเอเตอร์ที่ทำงานให้กับ Netflix มีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น Netflix จึงเลือกที่จะสร้าง Visual effects (VFX) studio บน AWS คลาวด์ และใช้เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ร่วมกันได้อย่างสะดวก แม้ไม่ได้อยู่ในที่เดียวกัน เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานระยะไกล ซึ่งช่วยตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง
3. AWS Local Zones เพิ่มประสิทธิภาพการประเมินผลบนคลาวด์
หลังจากที่ Netflix ได้สร้าง Visual effects (VFX) studio บน AWS คลาวด์แล้ว ได้มีการนำ AWS Local Zones ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือของ AWS มาเพิ่มประสิทธิภาพการประเมินผลบนคลาวด์ เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างครีเอเตอร์
AWS Local Zones จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บ ฐานข้อมูล และบริการอื่น ๆ เพื่อให้การเข้าถึงเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความหน่วงในการประมวลผลบน VFX Studio ส่งผลให้ครีเอเตอร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น
ทำไม Netflix จึงเลือกใช้บริการคลาวด์ แพลตฟอร์ม?
1. เพิ่มหรือลดทรัพยากรได้ตามต้องการ
หนึ่งในเหตุผลที่ Netflix เลือกใช้บริการ AWS คลาวด์ เพราะสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนทรัพยากรลงได้อย่างยืดหยุ่น เพราะในแต่ละช่วงเวลา และในแต่ละพื้นที่จะมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่แตกต่างกัน ซึ่งโซลูชัน AWS นั้น จะช่วยปรับโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นไปตามความต้องการในการใช้งาน ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเจอกับปัญหาคนเข้าชม Video ไม่ได้ เพราะขณะนั้นมีคนเข้าชมเยอะเกินไป โดยโซลูชันของ AWS จะสามารถช่วยขยายหรือโยกย้ายผู้ใช้งานให้มีความสมดุลกับพื้นที่ หรือหากช่วงนั้น ๆ Video บางประเภทไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก และมีคนเข้าชมน้อย ก็สามารถปรับลดพื้นที่ลง เพื่อจะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย
การใช้บริการ AWS คลาวด์ที่แพลตฟอร์มอย่าง Netflix เลือกใช้ ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปมากกว่าการทำ Data Center เอง เพราะเมื่อเทียบแล้ว การลงทุนกับทรัพยากรอย่าง CPU, RAM, HDD, OS หรือ License รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ทั้งเรื่องค่าไฟ ค่าเช่าห้องจัดเก็บทรัพยากร ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มีมูลค่าสูงกว่ามาก ซึ่งยังไม่นับรวมกับค่าจ้างบุคลากรเพื่อมาดูแล และค่าบำรุง รักษา ซ่อมแซมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
3. มีเทคโนโลยีให้เลือกใช้มากมาย ใช้งานได้ต่อเนื่อง
AWS ยังมีการอัปเกรดเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Netflix จึงยังสามารถปล่อยคอนเทนต์ดี ๆ ออกมาให้ชมอยู่เสมอ และไม่ว่าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มมากขึ้น และมีผู้ใช้งานมากขึ้นเพียงใด ก็ยังสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
4. มีเวลาในการพัฒนาธุรกิจหลักมากขึ้น
ในเมื่อ Netflix ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการวางรากฐานระบบ IT ของตนเอง เพราะมีตัวช่วยอย่าง AWS ที่คอยดูแลจัดการให้ จึงทำให้มีเวลาไปสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจของตน
ทั้งหมดนี้คือกรณีศึกษาของ Netflix ที่เรานำมาฝาก ซึ่งจะเห็นได้ว่ารูปแบบของบริการ AWS คลาวด์เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างโดดเด่น และสำหรับใครที่สนใจอยากนำบริการ AWS ไปใช้พัฒนาประสิทธิภาพให้กับองค์กรหรือธุรกิจของตน สามารถติดต่อได้ที่ Cloud HM เพราะเราเป็นพาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการของ Amazon Web Services ในไทย และมีทีมงานที่มากประสบการณ์ พร้อมความเชี่ยวชาญในการสร้างโซลูชันจาก AWS ที่สามารถช่วยขับเครื่องธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ