ทุกวันนี้องค์กรจำนวนมากหันมาใช้ Cloud Computing เป็นแกนหลักของระบบไอที และสิ่งหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความยืดหยุ่นนั้นก็คือ Hypervisor ซึ่งกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ขาดไม่ได้ มันคือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์เครื่องเดียวสามารถรันระบบปฏิบัติการหลายตัวได้พร้อมกัน ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Virtual Machine หรือ VM
ข้อดีคือเราไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องเพิ่ม แต่สามารถจัดสรรทรัพยากร เช่น CPU หรือ RAM ให้แต่ละ VM ใช้งานแยกกันได้อย่างอิสระ ทำให้การบริหารจัดการระบบไอทีทำได้คล่องตัวมากขึ้น ประหยัดต้นทุน และรองรับการขยายตัวของระบบทั้งในรูปแบบ On-premise และ Cloud ได้อย่างยืดหยุ่น นี่จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยีสำหรับฝ่าย IT เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลอีกด้วย
Hypervisor คืออะไร และมีกี่ประเภท?
ที่มา : https://www.dnsstuff.com/what-is-hypervisor
Hypervisor เป็นซอฟต์แวร์ที่คั่นกลางระหว่างฮาร์ดแวร์กับระบบปฏิบัติการของ VM โดยจะแบ่งทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ เช่น CPU, RAM และ Disk ให้แต่ละเครื่องเสมือนใช้งานอย่างเป็นอิสระ หน้าที่หลักของมันคือช่วยให้สามารถรันหลายระบบปฏิบัติการบนเครื่องจริงเพียงเครื่องเดียวได้อย่างเสถียรและปลอดภัย
ที่มา : https://www.stackscale.com/blog/hypervisors/
Hypervisor มีอยู่สองประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน ประเภทแรกคือ Type 1 หรือที่เรียกว่า Bare Metal ซึ่งจะติดตั้งลงบนฮาร์ดแวร์โดยตรงเลย ไม่ต้องพึ่งระบบปฏิบัติการใด ๆ ก่อนหน้า แบบนี้เหมาะกับการใช้งานระดับองค์กรที่ต้องการความเร็ว เสถียรภาพ และความปลอดภัยสูง ส่วนอีกแบบคือ Type 2 ที่จะติดตั้งอยู่บนระบบปฏิบัติการอย่าง Windows หรือ macOS ก่อน แล้วค่อยสร้าง VM ขึ้นมาอีกที แบบนี้จะเหมาะกับการใช้งานทดลอง หรือสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่อยากจำลองระบบในเครื่องของตัวเอง
Nutanix AHV ตัวช่วยจัดการระบบแบบครบวงจรในโลก Virtualization
Nutanix AHV หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Acropolis Hypervisor เป็น Hypervisor ประเภท Type 1 หรือประเภท Bare Metal ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้เข้ากันอย่างดีเยี่ยมกับระบบ Hyper-Converged Infrastructure (HCI) ของ Nutanix จุดเริ่มต้นของ AHV มาจากเทคโนโลยี Open Source ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่ออย่าง KVM (Kernel-based Virtual Machine) แต่ Nutanix ได้นำมาปรับแต่งและพัฒนาเพิ่มเติมให้เหมาะกับความต้องการขององค์กรยุคใหม่ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ความเสถียร และความง่ายในการดูแลระบบ
สิ่งที่หลายองค์กรชอบที่สุดคือ AHV ไม่ต้องเสียค่าไลเซนส์เพิ่มเลย เพราะมันถูกรวมมาในแพลตฟอร์มของ Nutanix อยู่แล้ว ใช้ได้ทันที ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แถมยังได้ความสามารถครบถ้วนแบบไม่มีกั๊ก การบริหารจัดการก็ทำได้ผ่าน Nutanix Prism ซึ่งออกแบบมาให้ใช้ง่ายสุด ๆ ด้วยแนวคิด “Single Pane of Glass” หรือพูดง่าย ๆ คือ ทุกอย่างจัดการได้ในหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง VM การจัดสรรทรัพยากร หรือจะดูสถานะการใช้งานแบบเรียลไทม์ก็ทำได้หมด
ที่มา : https://www.nutanix.com/products/ahv
ฟีเจอร์เด่นของ AHV
ถึงแม้ว่า AHV จะไม่ต้องเสียค่าไลเซนส์เพิ่มเติม แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือฟีเจอร์ระดับองค์กรแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Live Migration ที่สามารถย้าย VM ไปยังโฮสต์อื่นได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง ช่วยให้ระบบทำงานต่อเนื่องไม่มีสะดุด หรือจะเป็น High Availability ที่คอยสำรองระบบให้อัตโนมัติเมื่อฮาร์ดแวร์บางส่วนมีปัญหา ทั้งหมดนี้ช่วยลดโอกาสเกิด Downtime ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลก็จัดเต็มไม่แพ้กัน AHV รองรับการทำ Snapshot และ Disaster Recovery โดยไม่ต้องพึ่งโซลูชันเสริม พร้อมฟีเจอร์อย่าง RBAC สำหรับจัดการสิทธิ์ผู้ใช้งาน การ เข้ารหัสข้อมูล ทั้งขณะจัดเก็บและส่งผ่าน ตลอดจน Secure Boot ที่ป้องกันมัลแวร์ตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ ทุกอย่างนี้ทำให้ AHV เป็นตัวเลือกที่ทั้งยืดหยุ่นและมั่นใจได้สำหรับองค์กรที่จริงจังกับความปลอดภัยของระบบ IT
ที่มา : https://www.nutanix.com/products/ahv
การใช้งาน AHV ในสถานการณ์จริงขององค์กร
ในหลายองค์กรที่ต้องการให้พนักงานสามารถเข้าถึงระบบจากที่ไหนก็ได้แบบไม่สะดุด AHV กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในระบบ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) เพราะช่วยให้การทำงานจากระยะไกลเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ และยังช่วยลดภาระในการดูแลเครื่องปลายทางได้มหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น AHV ยังเหมาะกับงานในรูปแบบ Hybrid Cloud และ Edge Computing เพราะสามารถขยายระบบได้รวดเร็วตามต้องการ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมให้ยุ่งยาก
อีกจุดที่โดดเด่นเลยก็คือ AHV สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือสาย Automation และ DevOps อย่าง Terraform, Ansible หรือ CI/CD Tools ได้แบบไม่มีสะดุด ช่วยให้ทีม Dev ทำงานร่วมกับทีม Infra ได้อย่างลื่นไหล ไม่ต้องรอ ไม่ต้องแยกโลกกันอีกต่อไป ทั้งหมดนี้ทำให้ AHV ไม่ใช่แค่ Hypervisor สำหรับรัน VM แต่เป็นรากฐานของระบบ IT ที่พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในระยะยาวอย่างแท้จริง
ทำไม Nutanix AHV ถึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่
ที่มา : https://bernardmarr.com/the-10-biggest-technology-trends-that-will-transform-the-next-decade/
Nutanix AHV ไม่ได้เป็นแค่ Hypervisor อีกตัวในตลาด แต่มันถูกออกแบบมาให้เป็นส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ ภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่คล่องตัว ปลอดภัย และบริหารจัดการง่ายแบบสุด ๆ จุดแข็งที่หลายคนชอบคือ มันให้ฟีเจอร์ระดับองค์กรแบบครบชุด โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าไลเซนส์เพิ่มแม้แต่บาทเดียว
ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กที่เพิ่งเริ่มวางระบบ หรือองค์กรใหญ่ที่ต้องการลดความซับซ้อนของโครงสร้างไอที AHV ก็พร้อมรองรับได้หมด ช่วยลดต้นทุนได้จริง จัดการง่าย และพร้อมขยายเมื่อธุรกิจเติบโต ที่สำคัญคือมันตอบโจทย์ทั้งฝั่งเทคโนโลยีและเป้าหมายทางธุรกิจ โดยเฉพาะในยุคที่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนเร็วแบบนี้ ถ้าหากกำลังมองหาโซลูชัน Virtualization ที่ครบ จบ และคุ้ม AHV ควรอยู่ในลิสต์ตัวเลือกแรก ๆ อย่างไม่ต้องคิดนานเลยครับ
หากคุณกำลังมองหาโซลูชัน Virtualization ครบเครื่อง และพร้อมรองรับอนาคตขององค์กรในยุค Cloud Infrastructure สามารถ พูดคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Cloud HM ได้เลยที่ https://www.cloudhm.co.th/th/contact-us/
อ้างอิง
- Bernard Marr. (n.d.). The 10 biggest technology trends that will transform the next decade. Retrieved from https://bernardmarr.com/the-10-biggest-technology-trends-that-will-transform-the-next-decade/
- DNSstuff. (n.d.). What is a hypervisor?. Retrieved from https://www.dnsstuff.com/what-is-hypervisor
- Jessup University. (n.d.). Programming in Computer Science. Retrieved from https://jessup.edu/blog/engineering-technology/programming-in-computer-science/
- Nutanix. (n.d.). AHV: Enterprise cloud-native hypervisor. Retrieved from https://www.nutanix.com/products/ahv
- Stackscale. (n.d.). Hypervisors: Type 1 vs Type 2. Retrieved from https://www.stackscale.com/blog/hypervisors/