หาก SQL Server ของเรา End of Support จะทำยังไงดี?

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว IT กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Cloud HM Blog ข่าวสาร และบทความ IT น่าอ่านพร้อมบริการทุก ๆ ท่านน่ะครับ

วันนี้ทาง Cloud HM  ขอนำบทความเกี่ยวกับวัฏจักรของโปรดักส์ไมโครซอฟต์ เอสคิวแอล เซอร์เวอร์ ( SQL Server lifecycle ) และทำอย่างไรหากโปรดักส์ที่ใช้งานอยู่สิ้นสุดการดูแลหรือกำลังจะสิ้นสุดการดูแลจากไมโครซอฟต์

ทำความเข้าใจ SQL Server Lifecycle

รูปแบบของ Support ของ Microsoft จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

  1. Mainstream Support คือ รูปแบบที่ Microsoft ออกผลิตภัณฑ์ โดยจะนับตั้งแต่เริ่มออกจนถึงครบกำหนด โดยช่วงเวลา Mainstream Support นี้ จะมีอายุเพียง 5 ปี   หากเลยช่วงเวลานั้น จะเรียกว่า Extended Support ซึ่งจะพูดในข้อถัดไป, ในช่วง Mainstream Support ทาง Microsoft จะออกอะไรบ้าง
    1. New features ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ในระยะเวลา จะออกฟีเจอร์เรื่อยๆ โดยทาง Microsoft ไม่ได้กำหนดว่าจะออกกี่ฟีเจอร์แต่จะออกภายในระยะเวลาที่ Mainstream Support
    2. Security updates  ในระยะเวลานี้ทาง Microsoft จะออก Security update หรือเรียกง่ายๆคือ patch update ตามที่เราคุ้ยเคยกันนั้นเอง
    3. Non- security updates ในระยะเวลานี้ทาง Microsoft จะออก patch ที่แก้ไขบางอย่าง หรือบางฟีเจอร์ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับSecurity.
  2. Extended Support  คือรูปแบบที่ Microsoft ขยายเวลา Support อีก  5 ปี โดยการขยายเวลาดังกล่าวจะไม่มีการออกฟีเจอร์ใหม่  แต่จะมีเพียง Security updates และ Non-security updates เท่านั้น   

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่บทความนี้
https://blog.cloudhm.co.th/microsoft-product-lifecycle/

แนวทางแก้ไขหาก SQL Server End of Support

  1. อัพเกรดเวอร์ชั่นที่สูงกว่าที่ยังได้รับการดูแลจากไมโครซอฟต์
  2. Migrate Virtual Machine ไปยัง Azure เพื่อที่จะได้รับการอัพเดต Security ( Extended Security Updates ) ต่อไป
  3. ซื้อบริการอัพเดต Security ( Extended Security Updates ) ต่อจากไมโครซอฟต์
  4. Migrate SQL Server ไปยัง Service  Azure SQL
  5. Migrate SQL Server ไปยัง Service  SQL Managed Instance ( MI )

แนวทางที่ 1  อัพเกรดเวอร์ชั่นที่สูงกว่าที่ยังได้รับการดูแลจากไมโครซอฟต์

               หากคุณเลือกที่จะอัพเกรดเวอร์ชั่นที่สูงกว่าและยังคงรองรับการดูแลจากไมโครซอฟต์ ท่านจะได้ใช้บริการ SQL Server ในเวอร์ชั่นใหม่และยังคงได้รับการดูแลต่อไปในสถาพแวดล้อมเดิมต่อไป

ประโยชน์ที่จะได้รับหากใช้แนวทางนี้

  • จะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ของ SQL Server จากเวอร์ชั่นที่ได้อัพเกรด รวมไปถึงฟีเจอร์  รองรับการขยายตัว และความปลอดภัยต่างๆ
  • ควบคุม : คุณจะยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในด้าน Hardware และ Software ได้
  • สภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน : หากใช้แล้วทางนี้การอัพเกรดระหว่าง SQL Server จากเวอร์ชั่นเก่าไปยังเวอร์ชั่นใหม่ในสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน ทำให้ง่ายต่อการจัดการและดูแลต่อไป
  • ใช้งานได้กว้างขวาง : สามารถใช้งานกับแอพลิเคชั่นและฐานข้อมูลทุกประเภท
  • ลดความเสี่ยงสำหรับฐานข้อมูลที่ใช้งานกับระบบหรือแอพลิเคชั่น : ความเข้ากันของฐานข้อมูลระหว่างแอพลิชั่นต่างๆ รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ฐานข้อมูลหรือแอพลิเคชั่นไม่สามารถใช้งานได้ การอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่เป็นความเสี่ยงที่น้อยที่สุดเพื่อให้รองรับการดูแลจากไมโครซอฟต์ต่อไป

สามารถดูรายละเอียดความเข้ากันได้ที่ข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างนี้

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/database-engine/install-windows/compatibility-certification?view=sql-server-ver15

แนวทางที่.2  Migrate Virtual Machine ไปยัง Azure

ในแนวทางนี้จะเป็นแนวทางที่เป็นการย้ายระบบจาก On-primes ไปยัง Azure Virtual Machineในรูปแบบ Life & Shift ทำให้จะสามารถได้รับการดูแลและได้รับการอัพเดตความปลอดภัยต่อไปจากไมโครซอฟต์ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดต่อไป ในรูปแบบนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากยังคงรูปแบบเดิมเปลี่ยนแปลงเพียงรูปแบบการเข้าถึงฐานข้อมูลเท่านั้น.

ประโยชน์ที่จะได้รับหากใช้แนวทางนี้

  • ได้รับการดูแลเรื่องความปลอดภัยต่อไป
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ่าย Hardware และบำรุงรักษา
  • รองรับการขยายตัวและBackupได้อย่างอัตโนมัติ
  • ลดความเสี่ยงสำหรับฐานข้อมูลที่ใช้งานกับระบบหรือแอพลิเคชั่น

ข้อพิจารณาหากใช้แนวทางนี้

  • การดูแลและจัดการ
  • การเชื่อมต่อไปยังฐานข้อมูล
  • Shared storage FCI
  • Scalability downtime
  • ข้อจำกัดของขนาดพื้นที่

แนวทางที่ 3  ซื้อบริการอัพเดต Security ( Extended Security Updates ) ต่อจากไมโครซอฟต์

แนวทางนี้คือแนวทางที่ไม่ต้องการอัพเกรดหรือไม่สามารถอัพเกรด และยังคงอยู่สภาพแวดล้อมเดิมแต่ยังคงต้องการการดูแลด้านความปลอดภัยจากไมโครซอฟต์ต่อไปอีก 3 ปีเท่านั้น

ประโยชน์ที่จะได้รับหากใช้แนวทางนี้

  • ระบบหรือโปรแกรมยังคงรองรับต่อไป
  • ระบบโครงสร้างยังคงเดิมไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ
  • ยังคงได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยต่อไป
  • การซื้อบริการนี้จะซื้อเป็น ปีต่อปี และสูงสุดได้เพียง3ปีเท่านั้น

แนวทางที่ 4  Migrate SQL Server ไปยัง Service  Azure SQL

แนวทางนี้คือแนวทางในการย้ายฐานข้อมูลไปใช้บนระบบใหม่ โดยบริการ Azure SQL เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตและรองรับการใช้งานระบบแบบสมัยใหม่ โดยใช้เวลาน้อย

ประโยชน์ที่จะได้รับ

  • ค่าใช้จ่าย : เนื่องจากเป็น ฐานข้อมูลแบบเดี่ยว การใช้งาน การบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายจะคิดตามจริงเป็นวินาทีและมีราคาไม่แพง
  • ความยืดหยุ่น : สามารถยืดหยุ่นในการในการใช้งานจะขยายหรือลดได้ง่าย
  • เวอร์ชั่นล่าสุด : ได้ใช้งานเวอร์ชั่นล่าสุดตลอดเวลา
  • Intelligent Insights: มีการวิเคราะห์ฐานข้อมูลด้วย Intelligent Insights
  • ลดความเสี่ยงสำหรับฐานข้อมูลที่ใช้งานกับระบบหรือแอพลิเคชั่น : ความเข้ากันของฐานข้อมูลระหว่างแอพลิชั่นต่างๆ รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ฐานข้อมูลหรือแอพลิเคชั่นไม่สามารถใช้งานได้ การอัพเกรดในรูปแบบนี้เป็นความเสี่ยงที่น้อยเพื่อให้รองรับการดูแลและใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆจากไมโครซอฟต์ต่อไป

แนวทางที่ 5  Migrate SQL Server ไปยัง Service  SQL Managed Instance ( MI )

หากต้องการใช้งานประโยชน์จาก Microsoft Azure แต่หากใช้งาน Azure SQL มีข้อจำกัดเนื่องจากเป็น Single Database และต้องการใช้ประโยชน์ในการไม่ต้องดูแลอุปกรณ์ต่างๆ การใช้แนวทางนี้ตอบโจทย์เนื่องจากมีการออกแบบให้คล้ายคลึงกับ SQL Server ภายในองค์กรอย่างมาก คุณจะไม่ต้องกังวลกับปัญหาต่างๆได้เลย

ประโยชน์ที่จะได้รับ

  • ค่าใช้จ่าย : คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลอุปกรณ์
  • Lift and shift: คุณสามารถMigrate ในรูปแบบ lift and shift รวมถึงฐานข้อมูลทั้งหมดโดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลใดๆ
  • ความยืดหยุ่น : สามารถยืดหยุ่นในการในการใช้งานจะขยายหรือลดได้ง่าย
  • เวอร์ชั่นล่าสุด : ได้ใช้งานเวอร์ชั่นล่าสุดตลอดเวลา
  • Intelligent Insights: มีการวิเคราะห์ฐานข้อมูลด้วย Intelligent Insights
  • ลดความเสี่ยงสำหรับฐานข้อมูลที่ใช้งานกับระบบหรือแอพลิเคชั่น : ความเข้ากันของฐานข้อมูลระหว่างแอพลิชั่นต่างๆ รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ฐานข้อมูลหรือแอพลิเคชั่นไม่สามารถใช้งานได้ การอัพเกรดในรูปแบบนี้เป็นความเสี่ยงที่น้อยเพื่อให้รองรับการดูแลและใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆจากไมโครซอฟต์ต่อไป

เครื่องมือที่ใช้ในการอัพเกรด

  • Database Experimentation  Assistant:  สามารถช่วยประเมินเวอร์ชันของ SQL Server ปลายทางhttps://docs.microsoft.com/en-us/sql/dea/database-experimentation-assistant-overview?view=sql-server-ver15
  • Data Migration Assistant: ช่วยในการตรวจสอบในการเข้ากันของฐานข้อมูลและฟังก์ชั่นต่างๆเพื่อให้รองรับสำหรับ SQL Server เวอร์ชั่นใหม่

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/dma/dma-overview?view=sql-server-ver15

  • Query Tuning Assistant: สามารถช่วยปรับปรุงงานที่อาจพบผลกระทบเมื่ออัปเกรดเพื่อให้เกิดความเข้ากันได้ของฐานข้อมูล.

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/relational-databases/performance/upgrade-dbcompat-using-qta?view=sql-server-ver15

รูปภาพต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมในเวอร์ชันต่างๆ ของ SQL Server ที่ผ่านมา:

Lifecycle dates

ตารางต่อไปนี้แสดงวันที่ของวงจรการใช้งานโดยประมาณการสำหรับผลิตภัณฑ์ SQL Server ตามรายละเอียดด้านล่าง

https://support.microsoft.com/hub/4095338/microsoft-lifecycle-policy

ข้อมูลอ้างอิง: 

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/sql-server/end-of-support/sql-server-end-of-support-overview?view=sql-server-ver15#understand-the-sql-server-lifecycle

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/sql-server/end-of-support/sql-server-end-of-support-overview?view=sql-server-ver15

https://docs.microsoft.com/en-us/lifecycle/products/microsoft-sql-server-2012

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/dea/database-experimentation-assistant-overview?view=sql-server-ver15

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/dma/dma-overview?view=sql-server-ver15

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/relational-databases/performance/upgrade-dbcompat-using-qta?view=sql-server-ver15

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/sql-server/migrate/?view=sql-server-ver15

https://docs.microsoft.com/en-us/sql/database-engine/install-windows/compatibility-certification?view=sql-server-ver15

— Cloud HM